1. รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลียบ่อย – การรู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลียบ่อยๆ อ่อนแรง ไม่สดชื่นทั้งในตอนที่ตื่นนอนและระหว่างวันสะสมยาวนานมากกว่า 6 เดือน ควรเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุ
2.มีน้ำหนักตัวเพิ่มหรือลดอย่างรวดเร็ว – การเปลี่ยนน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็วโดยไม่สามารถหาสาเหตุได้ น้ำหนักลดลงมากกว่า 5% จากน้ำหนักเดิมภายในเวลา 6 เดือน โดยไม่ได้ตั้งใจลดน้ำหนัก อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพเช่น ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ มะเร็ง
3.มีอาการปวดเรื้อรัง – อาการปวดที่ไม่หายไปหรือเกิดขึ้นที่เดิมซ้ำๆ เริ่มจากความปวดเล็กน้อยค่อยๆเพิ่มขึ้น ปวดต่อเนื่องมากกว่า 3 เดือนเป็นต้นไป
4.มีปัญหาการหายใจหรือหายใจลำบาก – การหายใจที่ลำบาก หายใจไม่อิ่ม เหมือนลมผ่านเข้าไปได้ไม่ดี หายใจเข้าลึกไม่ได้ จนหายใจเป็นช่วงสั้นๆ ถี่ๆ อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย อย่างอาการจุกอก แน่นหน้าอก รู้สึกอึดอัด เหนื่อย หากเป็นหนัก อาจรู้สึกหายใจไม่ออก รู้สึกว่าจะขาดใจอาจเป็นสัญญาณของปัญหาหัวใจหรือปอด
5.มีอาการท้องเสียหรือท้องผูกเป็นประจำ – จากที่เคยขับถ่ายปกติเป็นประจำในตอนเช้า เกิดการไม่อุจจาระเลย มีอาการท้องเสีย ถ่ายเหลว หรืออุจจาระแข็งสลับกันและต้องใช้แรงในการแบ่ง อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของลำไส้และการดูดซึมอาหาร
6.มีการเปลี่ยนแปลงในผิวหนัง -ตุ่มคัน รอยแดง การเปลี่ยนสี หรือรอยโรคที่ไม่หายไป ลอกเป็นขุย นูนแดงเป็นปิ้นๆ เกิดขึ้นทั่วร่างกาย ควรได้รับการตรวจเพื่อป้องกันโรคร้ายแรงเช่น มะเร็งผิวหนัง โรคภูมิแพ้ตัวเอง
7.รู้สึกเครียดหรือซึมเศร้าเป็นระยะเวลานาน – อารมณ์ที่ไม่คงที่หรือรู้สึกเครียดเรื้อรัง มีช่วงระยะเวลาที่เศร้า หดหูู่ เบื่อหน่าย หมดความสนใจต่อโลกภายนอก ไม่คิดอยากมีชีวิตอยู่ หากสามารถจัดการกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้เป็นระยะเวลานานและเพิ่มระยะเวลามากขึ้นเรื่อยๆควรเข้ารับตรวจสุขภาพจิต
8.มีอาการเจ็บหน้าอกหรือใจสั่น – อาการเจ็บแน่นหน้าอกใจสั่น เจ็บคล้ายมีเข็มแทง เจ็บแปล๊บๆ เจ็บจุดเดียว กดเจ็บบริเวณหน้าอก เกิดขึ้นขณะพัก มีอาการนานเป็นชั่วโมง หรือเป็นวัน อาการจะเป็นมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนท่า ขยับตัว หรือหายใจเข้าลึกๆ รวมไปถึงเจ็บร้าวขึ้นศีรษะ ปลายมือ ปลายเท้าอาจบ่งบอกถึงปัญหาหัวใจที่ควรได้รับการตรวจอย่างเร็วที่สุด
9.มีการเปลี่ยนแปลงในการมองเห็นหรือได้ยิน – เห็นภาพเบลอ ตาพร่ามัว สู้แสงไม่ได้ เห็นจุดสีดำหรือภาพขุ่น ขาวดำ การสูญเสียการมองเห็นหรือการได้ยินลดลง มีความลำบากในการได้รับฟังเสียง ในหูมีเสียง มีน้ำในหู เอี้ยวตัวแล้วเวียนหัว อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่จะต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษา
10.มีประวัติครอบครัวที่มีปัญหาสุขภาพ – สมาชิกในครัวมีประวัติโรคทางพันธุกรรม เช่น เบาหวาน โรคเลือด มะเร็ง ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อตรวจหาและป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้น
การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการดูแลสุขภาพง่ายๆที่ใช้เวลาไม่นาน สามารถช่วยตรวจหาโรคที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเราได้ และป้องกันปัญหาสุขภาพก่อนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างทันท่วงที
“ตรวจสุขภาพปีนี้ ไม่ต้องรอ…เริ่มตอนนี้เพื่ออนาคตสุขภาพที่ดี”
“การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการดูแลสุขภาพร่างกายที่สำคัญเพื่อป้องกันโรคและดูแลสุขภาพของเราแบบองค์รวม โดยการตรวจสุขภาพช่วยให้เราทราบถึงสถานะของร่างกายตนเอง ช่วยค้นหาความผิดปกติและโรคที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต การรับรู้ปัญหาสุขภาพตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้ ลดความสูญเสียทางสุขภาพและด้านการเงิน รู้เร็วรักษาเร็ว ลดโอกาสการเจ็บป่วยเรื้อรังและไม่ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานที่อาจจะเกิดกับโรค ดังนั้นการเริ่มตรวจสุขภาพตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม เสียสละเวลาเพียงเล็กน้อยก็สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้เพื่ออนาคตสุขภาพที่ดีและสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง